ทำไมหัวหน้าไม่เคยฟัง อาจเพราะว่าคุณไม่มี Vendor mindset. (Vendor mindset Mindset that Employers need.)
Project ส่วนใหญ่ Vendor ได้ไปทำตลอดเลย ทั้งๆ ที่เราเป็นพนักงานในองค์กรณ์แท้ๆ แต่ดันไม่ยอมให้เราทำ ไปจ้าง Vendor ทำไมให้เสียเงินนะ
…. เสียงบ่นจากพนักงานคนหนึ่ง
ในยุคที่ใครๆ ก็บอกว่าต้องเริ่มที่ “Mindset” แล้วก็มี Mindset นั่นโน้นนี่มาเยอะเต็มไปหมดเลย แต่ละอย่างก็เพื่อให้ “รู้สึก” ถึงแต่ละ “วัตถุประสงค์”
Dictionary หาคำแปลของ “Mindset” ได้ว่า “ความเชื่อที่ส่งผลต่อพฤติกรรม” มีคำเหมือนก็คือ Attitude และ Belief
“Mindset” นั้น ได้เกิดขึ้นมาพร้อมๆ กับตัวเรา เป็น Individual (ลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละคน) ที่เกิดขึ้นมาจากประสบการณ์ที่ผ่านมาตลอดทั้งชีวิตของเราครับ ซึ่งจะส่งผลให้เราตัดสินใจและมีพฤติกรรมต่อเรื่องต่างๆ ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละคน
เพราะฉะนั้น การที่เราทำงานเป็นพนักงานกินเงินเดือนไปนานๆ ก็ทำให้เรามี Mindset แบบ พนักงานทั่วไป เรารู้ว่าอะไรเป็นอะไร เรารู้หมดแล้ว ซึ่งไม่ใช่ว่ามันไม่ดี แต่ถ้าอยากมองมุมต่าง ออกจาก comfort zoon สร้างอะไรใหม่ๆ การเอา “Vendor Mindset” มาใช้มันอาจจะดีก็ได้
ทำไมต้อง Vendor Mindset
ยกตัวอย่าง เวลาคุณต้องการนำเสนออะไรสักอย่างให้หัวหน้า หรือ คนอื่นๆ และเราเป็นพนักงานอยู่ในบริษัทนั้นอยู่แล้ว เราจะรู้สึกว่าเป็นของคุ้นเคย รู้ๆ กันอยู่ เดี๋ยวก็ได้ทำแน่ๆ ข้อมูลที่พูดทุกคนก็รู้กันแล้วแหละ
แต่มันอาจไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไปครับ เพราะฉะนั้นอยากนำเสนอให้ได้ ทำของให้โดน ลองมาใช้ 3 Vendor Mindset ดู
3 Vendor Mindset
Expectation Understand เข้าใจโจทย์ เข้าใจว่าเราทำอะไรได้
เวลาคุณเป็นพนักงานหลายครั้ง เวลาคุณได้รับคำสั่งให้ทำอะไรสักอย่าง คุณจะตอบทันทีว่าได้ครับ แต่ลองคิดในมุม Vendor นะ เค้าจะถามโจทย์ให้ชัดเจน เข้าใจความต้องการที่แท้จริง เข้าใจ Why ว่าอยากทำอะไรเพราะอะไร และ “จริงๆ แล้วอยากได้อะไร” เพื่อจะเอามาวิเคราะห์ ว่า Resource ที่มีสามารถที่จะทำอะไรได้ จะเสนอขายอะไร เพราะงั้นการที่คุณเป็นพนักงานคุณเองก็ต้องเข้าใจโจทย์ เข้าใจเป้าหมาย เข้าใจความคาดหวังเหมือนกัน
ไม่ใช่แค่นั้นคุณก็ต้องบริหาร Expection ได้ด้วย รู้ว่าหัวหน้าคาดหวังอะไร และต้องให้เค้าทราบว่าเค้าควรคาดหวังแค่ไหน เหมือน Vendor ที่เค้าจะดูว่า ด้วย Knowlage and Resource ที่เค้ามีอยู่เค้าทำอะไรได้แค่ไหน ตรงไหนที่เค้าจะต้องหาคนมาช่วย เพื่อให้ ลูกค้า ทราบว่าเค้าน่าจะได้อะไรในตอนสุดท้าย และไม่เกิด Over Expectation หรือ คาดหวังมากเกินไป
Sale ต้องขายให้ได้ในครั้งแรก
Presentation skill สำคัญมากครับ คุณจะเห็นว่า Vendor ที่ขายของได้ส่วนใหญ่มี Storytelling skill ที่สำคัญมากครับ ซึ่งหลายๆ ครั้งเวลาเราเป็นพนักงานเราะก็จะคิดว่างานมันเยอะอยู่แล้ว จะเสียเวลาทำ Present ทำไม แล้ว จะเสียเวลาพูดเยอะๆ ทำไม
ต้องบอกว่า Presentation ที่ดีไม่ใช่มีเยอะ แต่มันต้องมีของสำคัญที่คุณอยากนำเสนอ และมัน ต้อง Relate ไปกับ Story ที่คุณจะเล่า หลายๆ ครั้งเราทำ Present ก่อนแล้วค่อยมาคิดว่าจะเล่าอะไร แต่อยากให้มองกลับกันครับ คุณลองคิดก่อนว่าคุณจะเล่าอย่างไร แล้วตัว Presentaion จะตามมาเอง เป็นจำเป็นกับการเล่า
Storytelling ง่ายๆ เช่น
ใครเป็นคนฟัง คิดถึงผู้ฟัง ว่าเค้าเป็นใคร คนตัดสินใจคือใคร สิ่งที่เค้าต้องการคืออะไร ทำไมเค้าต้องสนใจเรา
เราทำอะไร จุดขายอยู่ตรงไหน เรา มีเรื่องราวอะไรที่น่าสนใจ อะไรคือจุดแข็งที่ควรเน้นย้ำ อะไรคือจุดอ่อนที่ต้องหาทางแก้ไข
จุดขายอยู่ไหน หาจุดขายของของที่จะทำแล้ว ร้อยเรียงนำเสนอ นึกถึงเวลาคุณดู TV Direct ก็ได้นะ
จะโชว์ยังไง อันนี้ถ้าคุณมี Technic การ present คุณเอามาเติมปรุงตรงนี้ได้นะ เช่น มีการเอา VDO เข้ามาใช้ แต่อย่าให้มากเกินจนกลบ Value ของคุณนะ
Connection Communication สื่อสารต้องไม่หลุด
Keep update เพื่อเก็บ Feedback เป็นสิ่งที่ Vendor จะทำบ่อยๆ เค้าจะเข้ามา Updaet ทุก Week ทุก Month เพื่อให้เห็นว่าตอนนี้อะไรไปถึงไหนแล้ว อะไรที่ติดอยู่ ติดอยู่ตรงไหน อยากให้ช่วยอะไร
ในแง่พนักงาน คุณอย่าปล่อยให้หัวหน้า ไม่รู้ Status เด็จขาด อย่าคิดว่าเดี๋ยวพอได้ของแล้วค่อยเอาไปให้ดูนะ เพราะเชื่อเถอะว่าระหว่างคุณทำของ Jorney ตรงนั้นไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะงั้น การที่คุณเข้าไป Update กับหัวหน้าบ่อยๆ เป็นเรื่องดีมาก
อาจจะใช้ R.A.I.D คุยกันก็ได้
จริงๆ แล้วหัวหน้าอยากฟังคุณนะ อยู่ที่คุณเอาของที่เค้าอยากฟังไปบอกเค้าหรือเปล่า